หลับนาน ไม่ได้สดชื่นเสมอไป!

รอบการหลับลึก 90 นาที..ทุกคนอาจทราบดีอยู่แล้ว
แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่า “90 นาทีแรก” ต่างหาก ที่เป็นการหลับลึกของจริง!

ก่อนเข้าเนื้อหาหลัก เรามาแบ่งประเภทการหลับง่ายๆ ก่อนดีกว่า
1 การหลับตื้น = REM ที่ย่อมาจาก Rapid eye Movement หรือเรียกว่า การหลับฝัน (ร่างกายหลับ แต่สมองไม่ได้พัก)
2 การหลับลึก = Non-REM หรือ การหลับที่แท้จริง (ได้พักทั้งร่างกาย และสมอง)

• มีการทดลองจับคลื่นความถี่สมองของมนุษย์ตอนหลับแล้วพบว่า..
ลักษณะการนอน “หลับลึก” จะเริ่มต้นจาก “ลึกที่สุด” ถึงขนาดแทบไม่มีพื้นที่ให้การหลับฝัน (หลับตื้น) เลยแม้แต่เล็กน้อย ก่อนจะตื้นขึ้นเรื่อยๆ ในรอบการหลับต่อไป นี่จึงเป็นช่วงของการหลับฝันที่ได้เข้ามามีส่วนในการพักผ่อนยามค่ำคืนของเรา อีกทั้งช่วงเวลาจะยาวนานมากขึ้นทุกครั้งตามจำนวนรอบอีกด้วย เคยได้ยินใช่ไหมว่า ปกติคนเราชอบฝัน (เป็นตุเป็นตะ) ช่วงเช้ามืด..นี่แหละคือสาเหตุ เพราะยิ่งใกล้เช้า ช่วงหลับฝันยิ่งยาวนาน

• ต่อมา ถ้าอยากนอนหลับ “เต็มอิ่ม” ให้ดีที่สุดต้องทำอย่างไรล่ะ?
วิธีนั้นคือ “หลับให้ลึกที่สุดเท่าที่ทำได้ ใน 90 นาทีแรก” เพราะจะช่วยให้ “ระยะการหลับลึก” ในรอบต่อๆ ไปจะไม่ตื้นเกินควรนั่นเอง (อธิบายง่ายๆ คือ เริ่มให้เยอะเข้าไว้ก่อน)..แต่ฟังดูแล้วอาจทำให้เกิดคำถามต่อไปว่า..ต้องทำยังไงล่ะ? ก็ขอทิ้งท้ายเนื้อหาครั้งนี้กับไปกับเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้หลับสนิทมากขึ้นกันดีกว่านะคะ

 1.เลี่ยงคาเฟอีน :: เช่น กาแฟ หรือ น้ำอัดลม จะกระตุ้นให้ความรู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณนอนไม่หลับรวมไปถึงการตกค้างของคาเฟอีนที่ร่างกายกำจัดไม่หมด
อันเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณหลับไม่สนิท
 2.ผัก-ผลไม้ :: ยิ่งทาน ยิ่งหลับง่าย เพราะมีประโยชน์ต่อสมอง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคนอนไม่หลับ ปวดหัวเป็นไมเกรน ให้คุณหลับสบายมากขึ้นอีกด้วย
 3.ออกกำลังกาย :: เพราะการออกกำลังกาย นอกจากทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังเร่งอุณหภูมิร่างกายให้สูงมากขึ้น
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้หลับสนิท
 4.เปิดหน้าต่าง :: เปิดรับอากาศสดใสจากภายนอก เพื่อให้อากาศภายในห้องของเราถ่ายเทมากขึ้น และมีอากาศหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาบ้าง อาจเปิดในช่วงกลางวันรับกลิ่นอายแดดก็จะยิ่งช่วยให้อากาศภายในห้องปลอดโปร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้คุณนอนหลับสบายและหายใจได้สะดวก