วิกฤตการนอนหลับของญี่ปุ่น กับประเทศไทย

まだ寝ていません!!! มีใครทราบบ้างว่า..ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการนอนหลับต่ำที่สุดในโลก
โดยมีการเปิดเผยข้อมูลผ่านหนังสือ “หลับดีมีคุณภาพด้วยเคล็ดลับฉบับสแตนฟอร์ด” ว่า
ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบภาวะผิดปกติด้านการนอน เพราะผู้คนติดหนี้สินการนอนมากกว่าประเทศอื่น

โดยเมื่อเทียบสถิติแล้ว..
• ฝรั่งเศสมีเวลานอนหลับเฉลี่ย 8.7 ชั่วโมง
• อเมริกามีเวลานอนหลับเฉลี่ย 7.5 ชั่วโมง
• ญี่ปุ่นมีเวลานอนหลับเฉลี่ย 6.5 ชั่วโมง

   ซึ่งตัวเลขของประเทศญี่ปุ่นที่ดูเหมือนไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่าที่จริงแล้ว…“จำนวนคนญี่ปุ่นที่นอนเฉลี่ยต่ำกว่า 6 ชั่วโมง มีมากถึง 40%” และจำนวนนั้นคือผู้อาศัยในโตเกียว ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีเวลานอนเพียง 5.5 ชั่วโมง

เพราะอะไร “โตเกียว” จึงมีเวลา “หลับ” แค่นั้น?
     ผู้เขียนหนังสือดังกล่าวได้วิเคราะห์ว่าอาจเป็นเพราะโตเกียวนั้นเต็มไปด้วยร้านค้า 24 ชั่วโมง, ร้านกินดื่ม, โรมแรม, เกมเซนเตอร์ รวมไปถึงร้านอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนเมืองได้อย่างไร้ช่องโหว่ จึงไม่แปลกที่โตเกียวจะเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้ชื่อว่า “เมืองที่ไม่เคยหลับ”

     และความที่ “ไม่เคยหลับ” นี่เองจึงไม่แปลกเลยที่ผู้คนที่อาศัยอยู่นั้นจะเกิดโรคที่เรียกว่า “Karochi” หรือ Death from Overwork ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “ตายเพราะทำงานหนักเกินไป” จนรัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกมารณรงค์เกี่ยวกับการนอนหลับให้ประชาชนพักผ่อนมากขึ้น

แล้วประเทศไทยล่ะ?
 สำหรับสถิติการนอนหลับในปี 2019 ของคนไทยที่ได้รับการเผยแพร่จาก World Economic Forum
คือ 6 – 6.5 ชม. ต่อวัน หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งถือว่าไม่มากนักสำหรับการพักผ่อนที่มนุษย์เราต้องการ และเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในประเทศญี่ปุ่น

      นี่จึงเป็นประเด็นที่เราควรเก็บมาต้องไตร่ตรองถึงการพักผ่อน และหันมาใส่ใจการนอนหลับตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่ประเทศไทยจะเกิดโรคที่คล้ายกับ
“Karochi” (Death from overwork) และเราต่างต้องพบเผชิญกับวิกฤตการนอนหลับ เช่นเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นต้องพบเจอในปัจจุบัน お休みなさい!!